Wednesday, March 9, 2011

วัยฝัน วันวาน และรักของเรา บทที่ 5 (ต่อ)


-บทที่ 5-
ตอน: 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งวิทยาลัยกลางหุบเขา (ต่อ)

"โลกใบนี้เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ ถ้าไม่ออกเดินทางก็ไม่มีวันค้นพบ"


สิ่งมหัศจรรย์ที่ 3: 'เกิดเป็นชายแท้ต้องมีเมีย เกิดเป็นแคชเชียร์ต้องมีความจำ'
เสียงจ้อกแจ้กจอแจที่โรงอาหารเริ่มเซาซาจางหาย เมื่อเข็มสั้นของนาฬิกาแขวนที่โดดเด่นอยู่บนฝาผนังของประตูเข้า-ออกใกล้ศาลาทรงไทยขยับหมุนเข้าใกล้เลขหนึ่ง นักศึกษาหลายคนทยอยเดินออกจากโรงอาหารด้วยความอิ่มหมีพีมัน แล้วเตรียมตัวเข้าเรียนคาบบ่ายอย่างเงื่องหงอยต่อไป
กลุ่มของตะวันเดินตะบิดตะบอยอ้อยอิ่งเข้าสู่โรงอาหาร ต่างคนต่างไม่มีเรียนคาบบ่ายเหมือนนักศึกษาคณะอื่น เว้นเสียแต่หนุ่มโป้งที่ต้องรีบทำงานของวิชา Human Quest II ให้เสร็จสรรพเรียบร้อยภายในบ่ายนี้ มิเช่นนั้นแล้วอาจารย์หุ่นตุ้ยนุ้ยนัยน์ตาแขกคงได้เรียกตัวไปพูดคุยแล้วบ่นพึมพำเป็นหมีกินผึ้งโทษฐานไม่ใส่ใจวิชาอันเป็นหลักพื้นฐานของชีวิต
เมื่อเดินเข้าสู่โรงอาหารพร้อมจัดวางกระเป๋าและหนังสือเป็นที่เรียบร้อย ต่างคนต่างเดินไปเลือกซื้ออาหารกันอย่างหิวกระหาย โดยเฉพาะเจ้าบิ๊กที่เดินอ้วนกลมถือถาดแซงหน้าไปก่อนเพื่อน แล้วรีบเร่งหยิบจับอาหารใส่ถาดของตัวเองอย่างไม่เกรงใจใคร
เมนูของโรงอาหารล้วนเป็นมังสวิรัติทั้งสิ้น ขึ้นชื่อในเรื่องเมนูไข่และรสชาติอาหารอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะและนั่นก็ทำให้ผู้ลงสมัครคณะกรรมการนักศึกษาหลายคนหยิบหยกประเด็นนี้ขึ้นมาหาเสียงอยู่ทุกปี
เมื่อเลือกซื้ออาหารกันแล้ว ต่างคนต่างเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าโต๊ะของแคชเชียร์หุ่นเพรียวลม มีจอคอมพิวเตอร์ตั้งเด่นอยู่ริมขอบโต๊ะและมีแป้นพิมพ์ขรุขระวางราบอยู่ตรงด้านหน้าของหญิงสาวคนนั้น เธอแหงนหน้าขึ้นมองนักศึกษาแต่ละคนและหันกลับไปจ้องจอคอมพิวเตอร์พร้อมวางนิ้วลงบนแป้นพิมพ์แล้วขยับนิ้วทั้งสิบประสานไปพร้อมกันอย่างรวดเร็วมิทันที่นักศึกษาคนใดคนหนึ่งจะมีโอกาสหยิบล้วงเอาบัตรนักศึกษาออกมาแสดงให้เธอดูเลยแม้แต่น้อย แคชเชียร์หุ่นเพรียวบางคนนี้สามารถจดจำรหัสของนักศึกษาเก้าร้อยกว่าคนได้อย่างครบถ้วนไม่ขาดไม่เกินจนเป็นที่กล่าวขานร่ำลือในกลุ่มนักศึกษาด้วยกัน
"พวกเองแน่ใจหรือเปล่าว่าพี่แกพิมพ์รหัสของพวกเราถูกต้อง" บิ๊กเอ่ยขึ้นขณะข้าวยังเต็มปาก
"แน่ใจสิ ก็ข้ายังแอบดูจอคอมพิวเตอร์ของพี่แกเลย ถูกเผงราวกับสมองกล" ตะวันกล่าวยืนยันอย่างหนักแน่น
"แกจำไอดีของนักศึกษาตั้งเก้าร้อยกว่าคนได้ยังไงวะ หรือแกฝังชิพสมองกลเอาไว้" น้ำเสียงแม็กเต็มไปด้วยความสงสัยและจินตนาการบรรเจิดจ้า จนจ๋อมต้องหันมาแขวะใส่เขา
"เพ้อเจ้อไร้สาระ"
"โอ้โห! แม่คนมีสาระ ไหนลองอธิบายมาสิว่าทำไมพี่แคชเชียร์คนนั้นถึงจำรหัสของพวกเราได้หมดทุกคน หึ" แม็กโพล่งขึ้น จนหลายคนต้องเอามือจุ๊ปากบอกให้เบาเสียงลง
"นี่ไม่รู้อะไร คนเราสามารถสร้างความเป็นอัจฉริยภาพในตัวเองได้ เพราะความเป็นอัจฉริยภาพนั้นเกิดจากการสร้างเส้นใยในสมองของเราอยู่ตลอดเวลา..." ทุกคนนิ่งอึ้งแทบไม่เชื่อว่าเด็กสาวหัวใจอิสระคนนี้จะเข้าใจการทำงานของสมองมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง
"ทฤษฏีพหุปัญญาโดยศาสตราจารย์ โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ กล่าวไว้ว่าทุกคนมีความเป็นอัจฉริยภาพอยู่ในตัวอย่างน้อย 8 ด้าน เพียงแค่ว่าเราจะหาเจอช้าหรือเร็วเท่านั้น อัจฉริยภาพทั้ง 8 ด้านประกอบด้วย ด้านภาษาและการสื่อสาร, ด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว, ด้านมิติสัมพันธ์และจินตภาพ, ด้านตรรกะและคณิตศาสตร์, ด้านการเข้าใจตนเอง, ด้านมนุษยสัมพันธ์, ด้านการเข้าใจธรรมชาติ และด้านดนตรี"

ตะวัน บิ๊ก โป้งและแม็ก ต่างตะลึงงันกับคำอธิบายที่พรั่งพรูออกจากปากของเด็กสาวคนเดียวในกลุ่ม แทบไม่น่าเชื่อว่า 'ยัยจ๋อม' คนนี้จะมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสมองได้ดีทีเดียว
"นี่แกศึกษาเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ด้วยรึ" โป้งเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
เด็กสาวพยักหน้าเป็นเชิงขานรับแต่ใบหน้ายิ้มกว้างด้วยความพึงพออกพอใจที่สามารถสร้างความทึ่งให้กับเพื่อนในกลุ่มได้
"หยั่งงี้ข้าก็ไม่ต้องพกบัตรนักศึกษาติดตัวมาแล้วสิ สบายบรื๋อล่ะทีนี้" บิ๊กแสดงความคิดเห็นแล้วลุกขึ้นเดินไปหยิบอาหารเพิ่มอีก จนผองเพื่อนได้แต่ส่ายหัวและอมยิ้มอย่างอารมณ์ดี

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
ได้รับแรงบันดาลใจจาก Chan Blog
"ที่โรงอาหารจะมีคนคอยเก็บเงินอาหารของนักศึกษาโดยที่นักศึกษาจะต้องแสดงบัตร ให้เขาดู แต่จริงๆ ไม่จำเป็นก็ได้ เพราะเขาสามารถจำ ID Number ของนักศึกษาทั้ง 900 คนได้หมดทุกคน ย้ำ! ทุกคน"

5 comments:

  1. อันนี้แหละครับที่ผมทึ่งมากๆ ไม่รู้ว่าแกจำรหัสนักศึกษาทุกคนได้ยังไง
    อย่างผมเนี่ยจำหน้าให้สัมพันธ์กับชื่อคนก็ว่ายากแล้ว ^^;

    รออ่านต่อนะครับ ชอบๆ

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณมากเลยครับคุณ่ CHAN ผมต้องยกเครดิตให้คุณชาญเลยนะครับที่เป็นคนคิดค้นไอเดียนี้ จนเป็นที่พูดถึงในหมู่นักศึกษามิชชัน (APIU) ยังไงขอบคุณมากเลยนะครับที่เข้ามาเขียน comment ให้และถ้าวันหนึ่งผมสามารถตีพิมพ์เรื่องนี้ออกมาได้จะยกเครดิตนี้ให้เลย

    ReplyDelete
  3. ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ไหนเนี่ย

    ReplyDelete
  4. 55 เราอุตส่าห์ทำเนียนว่าจะจำกันได้หรือเปล่า
    ตอนนี้ทำงานอยู่กทม. ทำอยู่ในบริษัทเล็กๆ ของคนเกาหลี เป็นบริษัทด้านไอที ทำพวกเว็บไซด์ Program application และ พวก e-commerce เราก็ต้องนั่งแปล นั่งเ่ขียน และบางครั้งนั่งออกแบบ ดีไซน์ เว็บเพจกับเค้าด้วย (แบบต้องศึกษาเรื่อพวก graphic design อะไรเทือกนั้นด้วย แล้วชาญละ ตอนนี้สอนเป็นไงบ้าง ต้องขออนุญาตนำไอเดียบรรเจิดจ้าของชาญมาดัดแปลง เสริมแต่งนวนิยายเรื่องแรกในชีวิตของเราตรงนี้ซะเลย ยอมรับว่าไอ้ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของชาญเนี่ย สุดยอดไปเลย เห็นติด SEO ของ Google ด้วยนี่ นับว่าไม่เลวทีเดียว

    ReplyDelete
  5. ตอนนี้ 7 สิ่งมหัศจรรย์มีภาค 3 แล้วนะ เพิ่งแต่งเสร็จหมาดๆ ^^ เข้าไปดูได้ที่เดิม

    ตอนนี้เราเป็นข้าราชการแล้ว (ได้บรรจุแล้ว) เกือบสองปีแล้วล่ะ โดยภาพรวมก็สบายดี งานมีเข้ามามากบ้างน้อยบ้าง ทดลองงานสองปีแล้วจะย้ายกับบ้าน

    ยังไงก็ เป็นกำลังใจให้วัฒน์นะ ในเรื่องของงาน และสิ่งที่ตัวเองรัก (งานเขียน) ........... "ถ้าเราจะประสบความสำเร็จ เราต้องเริ่มจากการฝัน ไม่ใช่เริ่มจากการเลิกฝัน" นะ จริงไหม


    .................แล้วจะมาเยี่ยมบ่อยๆ ^^

    ReplyDelete