ตอน: 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งวิทยาลัยกลางหุบเขา
สิ่งมหัศจรรย์ที่ 4: “ธรรมมะถึงใจ ปัญญาถึงพร้อม”
“พระเจ้าทรงสร้างโลกและสร้างอาดัมกับเอวาให้เป็นมนุษย์คู่แรก จากนั้นเขาทั้งสองก็ได้ทำผิดต่อพระเจ้าโดยการไม่เชื่อฟังพระองค์และความบาปก็เกิดขึ้นนับแต่นั้น พระเจ้าทรงไล่ทั้งคู่ออกจากสวนเอเดน แล้วให้ผู้ชายทำงานเลี้ยงดูภรรยาจนเหงื่ออาบต่างน้ำ ส่วนผู้หญิงก็ต้องทนทุกข์เจ็บปวดยามคลอดบุตร นี่แหละหนาคือความบาปที่ตกทอดมาจนถึงทุกวันนี้ ความบาปนั้นหรือมันก็เหมือนโรคร้ายที่คอยกัดกินมนุษย์เรื่อยมาจนยากแก่การแก้ใข แต่พระเจ้าผู้เปี่ยมล้นด้วยความรักและเมตตา พระองค์ไม่ประสงค์ให้มนุษย์ต้องตายเพราะโรคร้ายนี้ ดังนั้นพระองค์จึงลงมาช่วยมนุษย์เมื่อ 2,000 กว่าปีที่แล้ว โดยทรงแบกบาปแทนมนุษย์บนไม้กางเขน หากใครต้องการชีวิตใหม่ ให้เปิดใจต้อนรับ พระเยซู แล้วพระองค์จะทรงช่วยคุณ”
“ขอให้ทุกท่านในห้องประชุมแห่งนี้กล่าวอธิษฐานตามข้าพเจ้าดังนี้...”
“องค์พระเยซูคริสต์เจ้า...” จากนั้นก็มีเสียงเอ่ยขึ้นตามผู้นำอธิษฐานกังวานไปทั้งฮอลล์
“…ข้าพเจ้าต้องการพระองค์ ข้าพเจ้าขอเปิดประตูใจของข้าพเจ้า ต้อนรับเอาพระองค์มาเป็นพระผู้ช่วยให้รอด และเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ายอมรับกับพระองค์ว่าข้าพเจ้าเป็นคนบาป และขอสารภาพความผิดบาปทั้งสิ้นของข้าพเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่ได้ทรงโปรดอภัยโทษบาปผิดให้ข้าพเจ้าแล้ว และได้โปรดประทานชีวิตนิรันดร์ให้แก่ข้าพเจ้า ขอได้โปรดครอบครองชีวิตของข้าพเจ้า และกระทำให้ชีวิตของข้าพเจ้าเป็นไปตามแนวทางของพระองค์เถิด อธิษฐานทูลขอในนามของพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน”
เมื่อคำอธิษฐานจบลง ก็มีเสียงคุยจ้อกแจ้กจอแจของเหล่านักศึกษาตามมา จนอาจารย์หลายท่านที่นั่งแทรกอยู่ตามแต่ละแถวต้องขึงตาวาวเข้าใส่ หลายคนจึงเบาเสียงลงแล้วหลบสายตากันวูบวาบ จากนั้นอาจารย์พ่อบ้านก็เอ่ยประกาศถึงกิจกรรมต่างๆ ของวิทยาลัยในรอบสัปดาห์ก่อนจะส่งสัญญาณบอกเลิกประชุมประจำเช้าวันพฤหัสบดีหรือที่เรียกกันว่ากิจกรรม Assembly ด้วยประโยคสำเร็จรูปว่า “Have a good day.” แล้วนักศึกษาต่างก็แยกย้ายกันออกจากห้องประชุมเสียงดังอลหม่าน
“คาบต่อไปพวกนายมีเรียนมั้ย” บิ๊กเอ่ยถามเพื่อนๆ ในกลุ่มที่เดินตามกันออกมาจากห้องประชุมเป็นพรวน
“ทำไม...จะพาไปเลี้ยงข้าวที่ไหน” แม็กเอ่ยแซวขึ้น สีหน้าเรียบเฉย ส่วนตะวันและจ๋อมต่างยืนส่ายหัวด็อกแด็กแทนคำพูด
“ไปกินข้าวร้านพี่หน่อยกันเหอะ แต่ข้าไม่เลี้ยงนา...”
พอพูดจบ หนุ่มอ้วนพีรีบหันหน้ามาขึงตาใส่เพื่อนสนิทซึ่งบัดนี้แอบยิ้มระรื่นอย่างครึ้มอกครึ้มใจ
“แต่ข้ามีเรียน” โป้งเอ่ยขึ้น
“เรียนวิชาอะไรวะ โดดเหอะ” บิ๊กตวัดหน้าเอ่ยถามหนุ่มอินเทรนด์เกาหลีพลางสวมบทเป็นเจ้าตัวร้ายพูดทีเล่นทีจริงเหมือนเช่นเคย
“วิชา Human Quest II โดดไม่ได้”
“แล้วไอ้วิชานี้มันเกี่ยวกับอะไร” แม็กถามขึ้นบ้าง
“Man and His Destiny แปลเป็นไทยก็ประมาณว่า มนุษย์ตายแล้วไปไหน 1 ใน 6 วิชาบังคับ* ที่พวกนายทุกคนต้องลงเรียน ไม่งั้นไม่จบ!”
“ว้าว! ไม่ธรรมดาจริงๆ ปีที่แล้วพวกเราเรียน Human Quest I: Man in Quest of Roots เรียนถึงรากเหง้าว่ามนุษย์มาจากไหน ลงท่าได้เรียน Human Quest II อีกวิชา คราวนี้แหละธรรมะถึงใจ ปัญญาถึงพร้อมแน่”
แม็กสรุปได้อย่างยียวนทำให้เพื่อนๆ แอบอมยิ้มอยู่ในใจ
“แล้วที่เหลือล่ะว่าไง จะไปกินข้าวที่ร้านพี่หน่อยกันหรือเปล่า” บิ๊กมิวายรุกถามต่อ
“ไม่ไป! เราจะทำการบ้านและที่สำคัญนะ พวกเราเพิ่งทานข้าวเช้ากันก่อนเข้าประชุมนี้เอง กระเพาะคนนะ ไม่ใช่กระเพาะหมีควายจะกินได้ตลอดเวลา” พูดจบ ยัยจ๋อม ก็สะบัดก้นเดินจากไปทันที
“โอ้วแรง…” แม็กโพล่งขึ้นพลางอมยิ้มก่อนเดินตามเด็กสาวหัวใจอิสระไปพร้อมกับตะวันและโป้ง ปล่อยให้เจ้าบิ๊กยืนอ้าปากค้างหน้าเซ่ออยู่กับที่เพียงลำพัง
-------------------------------------------------------------------------------------------------
หมายเหตุ:
*วิชาเรียนที่นี่นอกจากจะมีวิชาเหมือนกับวิชาในมหาลัยทั่วไปแล้ว (เช่น คณิต, ไบโอ ฯลฯ) ที่นี่ยังมีวิชาที่เกี่ยวกับศาสนาเป็นวิชาบังคับด้วย (มี6 วิชา) บางวิชาเป็นวิชาที่ไม่ธรรมดา เช่น Man in Quest of Roots (มนุษย์นั้นมาจากไหน), Man and His Destiny (มนุษย์ตายแล้วไปไหน) เป็นต้น
(ที่มา: http://chan15.exteen.com/20070821/entry)
No comments:
Post a Comment